New Zealand เป็นประเทศที่ยินดีต้อนรับนักเรียนต่างชาติ และยังมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งจาก ประวัติศาสตร์ของชาวพื้นเมืองชนเผ่าเมารี และผู้อพยพชาวยุโรป ชาวเกาะแปซิฟิก และชาวเอเชีย การผสมผสานของ วัฒนธรรมที่หลากหลาย ประกอบกับภูมิประเทศที่สวยงาม รวมถึงพืชพันธุ์และสัตว์ท้องถิ่น ทำให้ New Zealand เป็น ประเทศที่น่าสนใจ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของประเทศ New Zealand มีอิทธิพลมาจากการผสมผสานของวัฒนาจากชาวพื้นเมือง ชาวเมารี และชาวอังกฤษที่เข้ามาล่าอานานิคมในภายหลัง รวมถึงวัฒนาจากชนชาติอื่น ๆ เข้ามาผสมผสานร่วมด้วย ประเทศ New Zealand มีการเต้นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เรียกว่า Haka เป็นการเต้นในพิธีการสำคัญต่าง ๆ นักสำรวจชาว Netherlands เป็นชาวยุโรปคนแรกที่ค้นพบ New Zealand และตั้งชื่อว่า Staten Land ภายหลังเกาะนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อโดยชาว Netherlands เป็น Nova Zeelandia ตามชื่อมลรัฐ Zeeland ใน Netherlands และต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อโดยนักสำรวจชาวอังกฤษ James Cook ให้เป็นภาษาอังกฤษ New Zealand ประเทศแห่งเกษตรกรรม เศรษฐกิจของ New Zealand มีรายได้หลักมาจากการเกษตรกรรม ผลิตภัณฑ์เกษตรของนิวซีแลนด์มีความหลากหลายและมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะในด้านการผลิตนม, เนื้อสัตว์, ผลไม้, และข้าวสาลี ซึ่งมีชื่อเสียงในตลาดโลก นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตนมรายใหญ่ของโลก โดยมีการเลี้ยงวัวนมประมาณ 6.5 ล้านตัว ซึ่งสูงกว่าจำนวนประชากรของประเทศที่มีประมาณ 5 ล้านคน ประเทศนี้มีแกะมากกว่าคนถึง 6 เท่า โดยส่วนใหญ่จะเลี้ยงในพื้นที่ภูมิภาคต่าง ๆ เช่น Otago และ Canterbury เนื้อแกะและขนแกะจากนิวซีแลนด์มีความนิยมในตลาดโลก กีฬา รักบี้ เป็นกีฬาประจำชาติของ New Zealand โดยชาว New Zealand ส่วนใหญ่มองว่า รักบี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่กีฬา แต่เป็นเหมือนเอกลักษณ์และส่วนหนึ่งของชีวิต รักบี้ในนิวซีแลนด์ได้รับการสนับสนุนทั้งจากรัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ เพื่อพัฒนากีฬาและสร้างนักกีฬาคุณภาพ All Blacks คือทีมรักบี้ชายทีมชาติของนิวซีแลนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรักบี้ ภูมิศาสตร์และธรรมชาติ New Zealand เป็นประเทศเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก มีบริเวณโดยมากเป็นภูเขา หรือ เนินเขาสูงชัน อีกทั้งยังมียอดภูเขาไฟและอ่าวฟยอร์ด ประเทศ New Zealand มีภูมิประเทศที่หลากหลาย ประกอบไปด้วยทั้ง ภูเขาไฟ ถ้ำ ทะเลสาบธารน้ำแข็ง หุบเขา อ่าวฟยอร์ด หาดทราย อาหารและเครื่องดื่ม เนื้อแกะ นอกจากจะเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงในประเทศ New Zealand แล้ว ยังเป็นสินค้าส่งออกที่ขึ้นชื่อของประเทศอีกด้วย โดยเนื้อแกะย่างที่นุ่มและฉ่ำเป็นอาหารจานโปรดของชาว New Zealand มักถูกปรุงรสด้วย rosemary และทานคู่กับผักตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีอาหารอื่น ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น Pavlova (ขนมตระกูลเมอแร็งก์เสิร์ฟคู่กับผลไม้) Hangi (อาหารพื้นเมืองของชาวเมารี เนื้อและผักตุ๋นในเตาใต้ดิน) หรือแบรนด์ขนมขึ้นชื่ออย่างช็อคโกแลต Whittaker ถึงเบียร์จะเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน New Zealand แต่ที่ประเทศนี้ยังมีเครื่องดื่มประจำชาติที่ชื่อว่า Lemon & Paeroa หรือเรียกสั้น ๆ ว่า L&P เป็นน้ำอัดลมรสหวาน รสเลม่อน โดยในตอนเริ่มแรก เครื่องดื่มนี้ถูกผลิตโดยการนำน้ำเลม่อนผสมกับน้ำแร่ธรรมชาติอัดลมจากเมือง Paeroa คนดัง James Cameron ผู้กำกับชื่อดังจาก Titanic และ Avatar ที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นชาวกีวี่ แต่เป็นเจ้าของฟาร์มถึง 3 แห่งในเมือง Wellington โดยได้ขายบ้านที่ Malibu, USA และย้ายถิ่นฐานไปอยู่ New Zealand พร้อมกับครอบครัว Taika Waititi ผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังที่กำกับหนังที่มีชื่อเสียงอย่าง Thor: Ragnarok เอง ก็เป็นชาวนิวซีแลนด์เช่นกัน 7. ระบบการศึกษาของ New Zealand ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับใหญ่ ๆ การศึกษาระดับปฐมวัย (Early childhood education)ซึ่งเริ่มตั้งแต่แรกเกิดจนกว่าจะถึงกำหนดอายุที่จะเข้าเรียนในโรงเรียน เป็นระดับการศึกษาที่ยังไม่ใช่ภาคบังคับ การศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา (Primary and secondary education) โดยจะอยู่ในช่วงอายุ 5-19 ปี โดยเป็นภาคบังคับในช่วงอายุ 6-16 ปีการศึกษาในโรงเรียนของ New Zealand ถูกแบ่งออกเป็น 13 ชั้นปี โดยแบ่งออกดังนี้- ระดับประถมศึกษา Year 1 – Year 8 (อายุ 5 – 12 ปี)- ระดับมัธยมศึกษา Year 9 – Year 13 (อายุ 13 – 17 ปี)โดยวุฒิการศึกษาในระดับมัธยมปลายของ New Zealand เรียกว่า NCEA (The National Certificate of Educational Achievement) ซึ่งจะใช้เวลา 3 ปีสุดท้ายในโรงเรียน (Year 11 – 13) การศึกษาระดับอุดมศึกษา (Tertiary education) แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้- การฝึกอบรมด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษา (Technical and vocational education)- วิทยาลัยชนกลุ่มน้อยเผ่าเมารี (Wananga)- มหาวิทยาลัย โดยในประเทศ New Zealand มีมหาวิทยาลัยทั้งหมด 8 แห่ง การเรียนต่อต่างประเทศ ค่าเทอม: จะเริ่มต้นที่ประมาณ 800,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยและคณะที่เลือก ค่าครองชีพ: ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าเทอมสำหรับการกินอยู่ในนิวซีแลนด์ (ค่าอาหาร + ค่าหอ) จะอยู่ที่ประมาณ 400,000 – 500,000 บาทต่อปี หน่วยเงิน: ใช้หน่วยเงิน New Zealand Dollar ($NZ) และมีหน่วยย่อยที่เรียกว่า cent (c) โดยมีธนบัตร $5, $10, $20, $50, $100 และมีเหรียญ 10C, 20C, 50C, $1, $2 การทำงาน part-time: ในช่วงระหว่างการเรียน ช่วงระหว่างเปิดภาคเรียน นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่ปิดภาคเรียนช่วงซัมเมอร์ สามารถทำงานได้ถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยค่าแรงจะอยู่ที่ประมาณ 350 - 500 บาทต่อชั่วโมง วีซ่าทำงานหลังเรียนจบ: นักเรียนต่างชาติสามารถอยู่ทำงานต่อได้ถึง 3 ปีด้วย Post-Study Work Visa สภาพภูมิอากาศ: ประเทศ New Zealand มีสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย โดยทางเหนือจะมีสภาพอากาศแบบกึ่งเขตร้อนในช่วงซัมเมอร์ และในทางใต้สามารถหนาวได้ถึง -10 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว บริเวณส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ใกล้กับชายฝั่ง ทำให้มีอุณหภูมิปานกกลาง มีฝนตกปานกลาง และแดดจ้าตลอดปี มหาวิทยาลัยที่เด่นด้าน Business (บริหาร) ป. ตรี และ ป. โท ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ BAC อยากแนะนำ University of Auckland University of Waikato Massey University University of Otago Auckland University of Technology Victoria University Wellington มหาวิทยาลัยที่เด่นด้าน วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) ป. ตรี และ ป. โท ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ BAC อยากแนะนำ University of Auckland University of Canterbury Auckland University of Technology มหาวิทยาลัยที่เด่นด้าน วิทยาศาสตร์ (Science) ป. ตรี และ ป. โท ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ BAC อยากแนะนำ University of Auckland University of Otago Massey University สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ Queenstown เหมาะสำหรับกิจกรรมผจญภัย Coromandel เป็นเมืองชายฝั่งทะเล มีชายหาดสวยงาม Abel Tasman National Park อุทยานแห่งชาติเหมาะสำหรับการปีนเขา พายเรือคายัค Fiordland National Park มีทิวทัศน์สวยงาม West Coast ขึ้นชื่อเรื่องธารน้ำแข็ง Mackenzie Region สถานที่สงบ เหมาะสำหรับดูดาว Rotorua เป็นเมืองที่น่าเรียนรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยา ความร้อนใต้พิภพ และวัฒนธรรมชาวเมารี Napier มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม Bay of Islands เหมาะสำหรับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาวเมารี

ประเทศอังกฤษ (England) เป็นส่วนหนึ่งของ สหราชอาณาจักร (United Kingdom) ซึ่งประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ อังกฤษตั้งอยู่ในเกาะใหญ่ของบริเตน (Great Britain) และมีเมืองหลวงคือ ลอนดอน (London) ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของประเทศเรามาเก็บข้อมูลและทำความรู้จักกับประเทศอังกฤษคร่าวๆจากจุดเด่นๆแต่ละด้านเพื่อพิจารณาในการเลือกประเทศสำหรับศึกษาต่อกันนะคะ   1.     วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ·        ประเทศอังกฤษ มี พระมหากษัตริย์ เป็นประมุขของรัฐเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่บทบาทและอำนาจของพระมหากษัตริย์ในอังกฤษแตกต่างจากประเทศไทย·        เป็นบ้านเกิดของนักเขียนชื่อดัง เช่น วิลเลียม เชคสเปียร์ (William Shakespeare) และ เจน ออสเตน (Jane Austen)·        มีสถานที่สำคัญที่เป็นมรดกโลก เช่น หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London), สโตนเฮนจ์ (Stonehenge), และพระราชวังบัคกิงแฮม (Buckingham Palace)·        วัฒนธรรมอังกฤษ เช่น ดนตรีจากวงเดอะบีทเทิลส์ (The Beatles) และซีรีส์โทรทัศน์ เช่น "เชอร์ล็อก โฮล์มส์" หรือ "Doctor Who" ได้รับความนิยมทั่วโลก   2.     ประเทศแห่งการศึกษา ประเทศอังกฤษเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญของโลก และมีรายได้สูงจากธุรกิจการศึกษา รายได้จากภาคการศึกษาในอังกฤษมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ รวมถึงค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก และการจับจ่ายใช้สอยของนักศึกษาประเทศอังกฤษมีโรงเรียนกว่า 32,163 แห่ง และ สถาบันอนุปริญญา และสายอาชีพ 260 แห่ง และ มหาวิทยาลัย 166 แห่ง·        อังกฤษเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น University of Oxford) และ University of Cambridge ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนและงานวิจัยระดับแนวหน้า·        อังกฤษเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เนื่องจากระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ หลักสูตรที่หลากหลาย และโอกาสในการทำงานหลังเรียนจบ·        มีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 600,000 คนต่อปีที่มาเรียนในอังกฤษ ทำให้ธุรกิจการศึกษามีรายได้สูงจากค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายของนักศึกษา     3.     กีฬา·        เป็นต้นกำเนิดของกีฬาหลายชนิด เช่น ฟุตบอล (Soccer), รักบี้ (Rugby), และคริกเก็ต (Cricket)·        พรีเมียร์ลีกอังกฤษ (English Premier League) เป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก   4.     ภูมิศาสตร์และธรรมชาติ·        อังกฤษมีทิวทัศน์ที่งดงาม เช่น เทือกเขาเลคดิสทริกต์ (Lake District), ชายฝั่งโดเวอร์ (White Cliffs of Dover) และหมู่บ้านชนบทที่สวยงามในเขตคอตส์โวลด์ (Cotswolds) และอีกมากมาย   5.     อาหารและเครื่องดื่ม·        อาหารอังกฤษ เช่น ฟิชแอนด์ชิปส์ (Fish and Chips), พายเนื้อ (Meat Pie) และชาดำพร้อมขนมสโคนในยามบ่าย (Afternoon Tea) เป็นที่รู้จักกันดี   6.    คนมีชื่อเสียงและคนดังเซอร์ไอแซก นิวตัน (Sir Isaac Newton): นักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ผู้ค้นพบกฎแรงโน้มถ่วงชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin): นักธรรมชาติวิทยาผู้เสนอทฤษฎีวิวัฒนาการผ่านการคัดเลือกโดยธรรมชาติสตีเฟน ฮอว์คิง (Stephen Hawking): นักฟิสิกส์ทฤษฎีผู้มีผลงานเด่นในเรื่องหลุมดำและจักรวาลวิทยาเจ.เค. โรว์ลิ่ง (J.K. Rowling): ผู้เขียนซีรีส์นิยาย Harry Potter ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกเอด ชีแรน (Ed Sheeran): นักร้อง-นักแต่งเพลงยุคใหม่ที่มีเพลงดังระดับโลก เช่น Shape of You และ Perfectอเดล (Adele): นักร้องเสียงทรงพลังผู้ชนะรางวัลแกรมมี่จากเพลงอย่าง Hello และ Someone Like You       7. ระบบการศึกษาของประเทศอังกฤษPrimary Education (ประถมศึกษา): อายุ 5-11 ปี)Key Stage 1: อายุ 5-7 ปีKey Stage 2: อายุ 7-11 ปีSecondary Education (มัธยมศึกษา): อายุ 11-16 ปี)Key Stage 3: อายุ 11-14 ปี ( Year7 – Year 9 ) ป 6 – ม 2Key Stage 4: อายุ 14-16 ปี (Year 10 - Year 11) ม 3 – ม 5หลังจากอายุ 16 ปี นักเรียนสามารถเลือกเส้นทางการศึกษาหรือการฝึกอบรมได้หลากหลาย:Sixth Form หรือ College: อายุ 16-18 ปี (Grade 12- Grade 13) ม 6 – ม 7นักเรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตร A-levels / Foundation (วิชาการ) หรือ Vocational Qualifications (สายอาชีพ เช่น BTECs หรือ NVQs)การศึกษาระดับอุดมศึกษา (Higher Education)เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป นักเรียนสามารถเลือกศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาระดับสูง โดยทั่วไปแล้ว:หลักสูตร ปริญญาตรี (Undergraduate Degree) ใช้เวลาเรียน 3-4 ปีหลักสูตร ปริญญาโท (Master's Degree) ใช้เวลา 1-2 ปีหลักสูตร ปริญญาเอก (Doctoral Degree) ใช้เวลา 3-4 ปีหรือมากกว่า     8. การเรียนต่อต่างประเทศค่าเทอม: มหาวิทยาลัยที่อังกฤษจะอยู่ที่ปีละประมาน 800,000 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยและคณะที่เลือก ค่าคลองชีพ: ที่อังกฤษ (ค่าอาหาร + ค่าหอ) ตกปีละประมาน 500,000 – 600,000 บาท หน่วยเงิน: หน่วยเงินของประเทศอังกฤษคือ ปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling) ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น £ และมีรหัสสกุลเงินตามมาตรฐาน ISO คือ GBP (Great British Pound) ทำงาน Part-time: วีซ่านักเรียนสามารถทำงาน part time ได้ 20 ชั่วโมง/อาทิตย์  โดยปรกติจะได้อยู่ที่ชั่วโมงละ 11.44 ปอนด์ หรือ 515 บาท/ชั่วโมง วีซ่าทำงานหลังเรียนจบ: นักเรียนสามารถขอวีซ่าอยู่ต่อไดอีก 2 ปี โดยที่ยังไม่ต้องมีงานทำหลังเรียนจบ ปริญญาตรีขึ้นไปสภาพภูมิอากาศ: มีฝนตกบ่อย วันนึงอาจเจอทั้ง แดด ลม และ ฝนตก ดังนั้นควรพกร่ม เสื้อกันฝน หรือ เสื้อคลุมมีหมวก     มหาวิทยาลัยที่เด่นด้าน Business (บริหาร) ป. ตรี และ ป. โท ประเทศอังกฤษ ที่ BAC อยากแนะนำสาขาเรียนยกตัวอย่างเช่น Business Manager, Marketing, MBA, MSc in Business Analytics, Strategic Development, Accounting, Finance  และอีกมากมายมหาวิทยาลัย: University of Cambridge, University of Oxford, London Business School (LBS), Imperial College London, University of Warwick, University of Manchester, University of Bath, University of Leeds, Durham University, Queen Mary University of London, Brunel University London, University of Exeter, University of York, University of Liverpool, Oxford Brookes University, University of the West of England, Sheffield Hallam University, Anglia Ruskin University, University of Sunderland, De Montfort University,  Bishop Grosseteste University, Robert Gordon University และอีกมากมาย มหาวิทยาลัยที่เด่นด้าน วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering)  ป. ตรี และ ป. โท ประเทศอังกฤษ ที่ BAC อยากแนะนำสาขาเรียนยกตัวอย่างเช่น Chemical, Mechanical, Civil Engineering, Robotic, Computer Science และอื่นๆมหาวิทยาลัย: University of Manchester, University of Leeds, University of Southampton, Loughborough University, Aston University, University of Sheffield, University of Bath, Newcastle University, Cardiff University, Liverpool John Moores University, University Surrey, Manchester Metropolitan University, University Hertfordshire, Oxford Brookes University, มหาวิทยาลัยเด่นด้าน  วิทยาศาสตร์ (Science) ป. ตรี และ ป. โท ประเทศอังกฤษ ที่ BAC อยากแนะนำสาขาเรียนยกตัวอย่างเช่น  Biomedical Science, Biology, Pharmacy, Nutrition, Chemistry และอื่นๆอีกมากมายมหาวิทยาลัย University of Oxford, University of Edinburgh, University of Glasgow, King's College London, St Andrews University, University of Leeds, University of Bristol, University of Sheffield, University of Exeter, University of Strathclyde, Cardiff University, Queen's University Belfast, University of Stirling, University of Surrey, University of Hertfordshire และอีกมากมาย9. สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดหอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London)พระราชวังบัคคิงแฮม (Buckingham Palace)หอนาฬิกาบิกเบน (Big Ben)สะพานทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge)พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum)มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (University of Oxford)พิพิธภัณท์เชอร์ล็อกโฮล์มส์ (Sherlock Holmes Museum)หอศิลป์แห่งชาติของกรุงลอนดอน (National Gallery of London)โรงอาบน้ำโบราณ (Roman Bath)มหาวิหารยอร์ก (York Cathedral)ปราสาทวอร์วิก (Warwick Castle)สนามฟุตบอลแอนฟิลด์ (Anfield Stadium)คอทส์โวลส์ (The Cotswolds)Natural History Museumสวนสัตว์เชสเตอร์ (Chester Zoo)สวนสัตว์ Yorkshire Wildlife Parkโครงการอีเดน โปรเจก ( The Eden Project ) – Cornwallประติมากรรมนางฟ้าทิศเหนือ ( Angel of the North ) – Gatesheadบ้านเกิดของเชคสเปียร์ ( Shakespeare’s Birthplace ) – Stratford-upon-Avonสตูดิโอถ่ายทำแฮร์รี่พอตเตอร์ ( Harry Potter Warner Bros Studio Tour ) – Londonสวนสนุกอัสตัน ทาวเวอร์ รีสอร์ท ( Alton Towers Resort ) – Staffordshire 

ฝันอยาก เรียนต่ออังกฤษ แต่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและการปรับตัว? Joint Master Programmes จาก British Academic Center อาจเป็นคำตอบที่น้องๆกำลังมองหา! โปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้ได้ เรียนต่ออังกฤษ แบบไม่ต้องกังวล โดยจะเริ่มต้นเรียนที่ไทย 3 เดือน ก่อนไปเรียนต่ออังกฤษ หรือ นิวซีแลนด์ ในระดับปริญญาโทที่ต่างประเทศอีก 8-9 เดือน เพื่อต่อยอดความรู้และประสบการณ์ พร้อมรับปริญญาโทต่างประเทศจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษ สกอตแลนด์ และนิวซีแลนด์ เรียนต่ออังกฤษ นิวซีแลนด์ Joint Master Degree เปิดรับสมัครแล้วเรียนปริญญาโทต่างประเทศ ไม่ใช้ IELTS และไม่จำเป็นต้องมีประสบการ์ณทำงาน -------------Early Bird Scholarship------------สมัครรอบ January 2025 Intake - เปิดเทอม 30 มกราคม 2568***รับทุนส่วนลดการศึกษา (Early Bird Scholoarship)  มูลค่า 20,000 บาท ทุกมหาวิทยาลัย****** เมื่อสมัคร + ชำระเงินค่าเรียน 1st Instalment Fee  150,000 บาท ภายใน 30 พฤศจิกายน 2567 เท่านั้น    ** จะไปลดค่าเรียนในการชำระเงินค่าเรียนงวดสุดท้าย ** Joint Master Programme คืออะไร? British Academic Center ได้ทำหลักสูตร Joint Master Programmes ในสาขาบริหารธุกิจ การตลาด การจัดการ การเงินและการลงทุน และอื่นๆ ซึ่งได้ทำความร่วมมือระหว่าง กับ มหาวิทยาลัยรังสิต เกิดเป็นโครงการ RSU Studyabroad เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเรียนต่ออังกฤษ, เรียนต่อนิวซีแลนด์ ในระดับปริญญาโท ได้มีโอกาสปรับตัวก่อนไปเรียนจริง ประหยัดค่าครองชีพ ประหยัดค่าเล่าเรียน ได้ความรู้และประสบการณ์ที่ต่างประเทศ โดยจะเริ่มคลาส 3 เดือน ที่ประเทศไทยก่อน + ไปเรียนที่ต่างประเทศ 8-9 เดือน เรียนจบแล้วได้รับวุฒิจากการเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ, ปริญญาโทนิวซีแลนด์ ในมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ต่างประเทศ หลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเรียน mba อังกฤษ หรือ mba นิวซีแลนด์ หรือสาขาอื่นๆ เช่น Digital Marketing, Finance, International Business ฯลฯ เริ่มเรียน30 Jan 2025ระยะเวลา1 ปี (3 เดือนที่ไทย + 8-9 เดือนที่ต่างประเทศ)วันและเวลาเรียนขึ้นอยู่กับสาขาที่เลือกเรียนสถานที่เรียน3 เดือนแรกที่ สุขุมวิท 31, RSU Towerจำนวนนักเรียนต่อห้อง20-40 คนค่าเรียนตลอดหลักสูตรเริ่มต้น 630,000 บาท** Notice of Tuition Fees change: Tuition fees may be changed from this fee for the year 2025 due to the updated academic year 2025 from university. -------------Early Bird Scholarship------------สมัครรอบ January 2025 Intake - เปิดเทอม 30 มกราคม 2568***รับทุนส่วนลดการศึกษา (Early Bird Scholoarship)  มูลค่า 20,000 บาท ทุกมหาวิทยาลัย****** เมื่อสมัคร + ชำระเงินค่าเรียน 1st Instalment Fee  150,000 บาท ภายใน 30 พฤศจิกายน 2567 เท่านั้น** จะไปลดค่าเรียนในการชำระเงินค่าเรียนงวดสุดท้าย ** เปิดเหตุผลทำไม เรียนต่ออังกฤษ Joint Master ถึงไม่ใช้ IELTS • นักศึกษาที่จบการศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรีอินเตอร์ (International Programme)  ซึ่งจบการศึกษามาไม่เกิน 2-5 ปี ไม่ต้องยื่นผลภาษาอังกฤษ (Waive IELTS) – กรุณาเช็คมหาวิทยาลัยที่ Waive IELTS กับเจ้าหน้าที่ Joint Programmes• นักศึกษาที่ยังไม่มีคะแนนสอบภาษาอังกฤษ (คะแนนสอบ IELTS) สามารถมาลงสมัครสอบภาษาอังกฤษตรงกับทางโครงการได้ (ดูรายละเอียดสมัครสอบภาษาอังกฤษ BACIET)• ระดับคะแนนภาษาอังกฤษขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัยที่เลือกเรียน• ถ้านักศึกษามีคะแนนสอบ IELTS หรือ BACIET Overall 5.5 คะแนน โดยแต่ละ Skill ไม่ต่ำกว่า 5.0 คะแนน สามารถเข้าเรียนหลักสูตร Joint Pre-sessional English Programme ปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ Academic English สำหรับระดับปริญญาโท จะเรียนและสอบในหลักสูตรนี้แทน IELTS / BACIET ซึ่งหลักสูตรนี้จะเริ่มเรียนก่อนเปิดเทอม Joint Master Programmes / หรือเริ่มเรียนพร้อมเปิดเทอม Joint Master Programmes  (ระยะเวลาเรียน 60 – 100 ชั่วโมง ค่าเรียน 69,500 บาท  เรียนเป็นกลุ่ม)  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่ | สมัครเรียน Pre-sessional English Programme คลิกที่นี่• เอกสารสามารถยื่นส่งได้ในภายหลัง หรือส่งพร้อมใบสมัครออนไลน์• สำหรับนักศึกษาต่างชาติ (Non-Thai Student) จะเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 25,000 บาท  (Extra fee) เอกสารที่ใช้ในการสมัคร เรียนต่ออังกฤษ Joint Master • Graduation Transcript ฉบับภาษาอังกฤษ สำเนา 2 ชุด :  กรุณายื่นพร้อมใบสมัคร• Graduation Certification Letter (ใบรับรองจบการศึกษา ฉบับภาษาอังกฤษ)  สำเนา 2 ชุด :  กรุณายื่นพร้อมใบสมัคร• สำเนาใบปริญญาบัตร 1 ชุด (ในกรณีที่เพิ่งจบการศึกษา นำมายื่นภายหลังได้)• Statement of Purpose (SOP) 1 ฉบับ  : ยื่นส่งภายหลัง ก่อนเปิดเทอมได้ จะมีตัวอย่างให้หลังจากที่ทำการสมัครแล้ว• Recommendation Letter จากอาจารย์ หรือ หัวหน้างาน (ในกรณีทำงานแล้ว) 1 ฉบับ : ใส่หัวกระดาษมหาวิทยาลัย หรือ บริษัท (ยกเว้น Sheffield Hallam University และสาขา MBA ของ Anglia Ruskin University ใช้ 2 ท่าน ท่านละ 1 ฉบับ)  : ยื่นส่งภายหลัง ก่อนเปิดเทอมได้• CV / Resume : ยื่นส่งภายหลัง ก่อนเปิดเทอมได้ จะมีตัวอย่างให้หลังจากที่ทำการสมัครแล้ว• ผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษ BACIET  ของทาง RSU Study Abroad  หรือ ผลคะแนนสอบ  IELTS (ในกรณี Waive IELTS ไม่ต้องยื่นผลคะแนนภาษาอังกฤษ)  : ยื่นส่งภายหลังก่อนเปิดเทอมได้ • สำเนา 1 ชุด Passport ตัวจริง (ที่มีอายุการใช้งานครอบคลุมระยะเวลาที่เรียนตลอดหลักสูตร) : ยื่นส่งภายหลัง ก่อนเปิดเทอมได้ • สำเนาทะเบียนบ้าน 2 ชุด  :  กรุณายื่นพร้อมใบสมัคร• สำเนาบัตรประชาชน 2 ชุด  :  กรุณายื่นพร้อมใบสมัคร• รูปถ่าย 1 นิ้ว พื้นหลังสีฟ้า/ ขาว จำนวน 3 รูป  รูปถ่ายปัจจุบันไม่เกิน 6 เดือน (ยกเว้นรูปใส่ชุดรับปริญญา) : ในกรณีที่ยังไม่มีรูปถ่าย ตอนส่งใบสมัครออนไลน์แนบรูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรงที่มีอยู่เข้ามาพร้อมใบสมัครก่อนได้  (ส่วนรูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 3 รูป รูปจริง นำมายื่นพร้อมวัน Interview) ***นโยบายการคืนเงินค่าเรียน***• ค่าเรียน 1st Instalment fee (จำนวนเงิน 150,000 บาท) ไม่สามารถขอคืนเงินได้ในทุกกรณี (non-refundable)• ในกรณีที่สอบภาษาอังกฤษไม่ผ่านเกณฑ์ตามกำหนด ที่จะเข้าเรียน Pre-sessional English ได้ (ได้น้อยกว่า Overall 5.5 คะแนน ทุก Part ไม่ถึง 5.0 คะแนน) : อนุโลมให้ทำเรื่องเลื่อนรอบเปิดเทอม 1 เป็นรอบถัดไปได้• หลังจากเปิดเรียนเทอม 1 แล้ว ค่าเรียนของเทอม 1 ไม่สามารถขอคืนเงิน + เลื่อน Intake ได้ในทุกกรณี• หลังจากชำระเงินค่าเรียน 2nd Instalment fee ก่อนยื่นวีซ่า ในกรณีที่วีซ่าไม่ผ่าน นักศึกษาจะสามารถขอคืนเงินค่าเรียน 2nd Instalment fee ได้ในเฉพาะกรณีที่วีซ่าไม่ผ่าน กรณีเดียวเท่านั้น โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาได้เลือกเรียน (ทางมหาวิทยาลัยต่างประเทศอาจจะมีการ Charge ค่า Admin Fee)• สำหรับนักศึกษาต่างชาติ (Non-Thai Student) จะเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 25,000 บาท  (Extra fee) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เรียนต่ออังกฤษ ป.โท Joint Master ดูโปรแกรมเรียนต่อต่างประเทศอื่นๆ ของ British Academic Centerสำหรับบุคคลที่สนใจเรียนต่อปริญญาตรี โท ที่ต่างประเทศ ทาง British Academic Center มีหลักสูตรอื่นๆที่เป็นทางลัดอีกมากมายเช่นกัน คลิกดูรายละเอียดได้เลยRead More ☎️  02-258-5159, 088-022-2701, 098-285-6114 Youtube RSU Study Abroad FB RSU Study Abroad IG british_academic TikTok @britishacademic

งานเรียนต่อต่างประเทศ เปิดบ้านเส้นทางลัดสู่เรียนต่อป.ตรี โท ต่างประเทศ อังกฤษ, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ โดยไม่ใช้IELTS น้องๆ ม.ปลาย นักศึกษามหาวิทยาลัย หรือพ่อแม่ ผู้ปกครองที่กำลังมองหา **เส้นทางเรียนต่อปริญญาตรี โท ต่างประเทศ** ไม่ควรพลาด! มาร่วมงานสัมมนาสุด Exclusive กับ งานเรียนต่อต่างประเทศ เปิดบ้าน British Academic Center (BAC) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศกว่า 10 ปี พร้อมให้ข้อมูลและคำแนะนำอย่างใกล้ชิด วัน อาทิตย์ ที่ 20 ตุลาคม 2024 เวลา 13.00 – 16.00 น. **สถานที่:** British Academic Center, ชั้น 15 อาคาร RSU Tower, ซอย สุขุมวิท 31 **การเดินทาง:** BTS พร้อมพงษ์ ทางออก 5 / MRT สุขุมวิท / รถยนต์ส่วนตัว (จอดฟรี 4 ชม.) คลิก ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! @LINE สอบถามเพิ่มเติม ทำไมต้องมางานเรียนต่อต่างประเทศ BAC พบกับตัวแทนศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย พูดคุยสอบถามประสบการณ์จากตัวจริง ข้อมูลครบครันเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งปริญญาตรี และ โท ทำความเข้าใจหลักสูตรทางลัด ป.ตรี International Foundation, Year One, และ Medical Route เปรียบเทียบการเรียนต่อป.ตรี ต่างประเทศระหว่าง International Foundation Year กับ A-Level และ IB ข้อดีของการเรียน International Foundation Year ในไทยกับ BAC ทำความเข้าใจหลักสูตร ป.โท ต่างประเทศ Joint Master Programmes ไขข้อสงสัย ทำไมเรียนต่อต่างประเทศกับ BAC ถึงไม่ใช้ IELTS พิเศษสุดๆ สมัครเรียนภายในงาน ทั้ง ป.ตรี และ ป.โท รับส่วนลดค่าเรียนสูงสุด 100,000 บาท วิดีโอบรรยายกาศงานเปิดบ้าน BAC ทางลัดสู่ปริญญาตรี โท ต่างประเทศ 2023 ค้นพบเส้นทางลัดสู่การเรียนต่อป.ตรี โท ต่างประเทศ (ปริญญาตรี) จบ ม.5, GED บินต่อ NCUK International Foundation Year (1+3) (ปริญญาตรี) จบ ม.6 กระโดดไป NCUK International Year One (1+2) (ปริญญาตรี) สายแพทย์ เภสัช ทันตะ ต้องนี้ NCUK International Medical Route (1+5) (ปริญญาโท) อยากต่อโทต่างประเทศ ต้อง Joint Master Programmes น้องๆ ม.ปลาย นักศึกษามหาวิทยาลัย หรือพ่อแม่ ผู้ปกครองที่สนใจหาข้อมูลเรียนต่อป.ตรี โท ต่างประเทศ เข้างานฟรี! คลิก ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! @LINE สอบถามเพิ่มเติม ตารางกิจกรรม ของงานเรียนต่อต่างประเทศ 13:00 ลงทะเบียน 13:30 - 14:00 บรรยายแนะแนวเรียนต่อป.ตรี โท ต่างประเทศ 14:00 - 14:30 Q&A 14:30 - 16:00 พูดคุยกับเจ้าหน้าที่แบบตัวต่อตัว รายชื่อตัวแทนมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมงานเรียนต่อต่างประเทศ 2024 University of Bradford, UK University of Bristol, UK De Montfort University, UK Oxford Brookes University, UK University of Leeds, UK UWE Bristol: University of the West of England, UK University of Westminster, UK Sheffield Hallam University, UK ARU Cambridge: Anglia Ruskin University, UK BGU Bishop Grosseteste University Lincoln ภาพบรรยากาศงาน #งานเรียนต่อต่างประเทศ คลิก ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! โปรแกรมเรียนต่อต่างประเทศอื่นๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: 02-258-5650, 087-559-6888